ยุวกาชาด คือ เยาวชนชาย-หญิง อายุระหว่าง 8 - 25 ปี ที่มีจิตใจเสียสละ อุทิศตนบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม และสืบทอดอุดมการณ์ของกาชาดตามหลักการกาชาด 7 ประการ บทบาทหน้าที่ของยุวกาชาดทุกคน จึงต้องฝึกตนเองทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพื่อการเตรียมพร้อมช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในทุกโอกาสที่จะทำได้ เพื่อนมนุษย์ในที่นี้อาจเริ่มจากบุคคลใกล้ชิด เช่น ครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนมนุษย์ในชุมชน หมู่บ้าน โรงเรียน หาโอกาสในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชน และให้ความร่วมมือช่วยเหลืออย่างบริสุทธิ์ใจ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ
[แก้ไข] ประวัติความเป็นมาของยุวกาชาดไทย
ยุวกาชาดไทยได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2465 ในชื่อ “กองอนุสภากาชาดสยาม” พระดำริของ]]จอมพลสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต]] อุปนายกผู้อำนวยการสภากาชาดสยามในขณะนั้นเป็นผู้ก่อตั้ง ได้ทรงมีพระดำริว่า "สภากาชาดของบางประเทศได้ตั้งสภากาชาดแผนกเด็กขึ้น ที่เรียกตามภาษาอังกฤษว่า Junior Red Cross รับเด็กชาย-หญิงอายุไม่เกิน 18 ปี เป็นสมาชิก โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะปลูกฝังเพาะนิสัยเด็กให้มีใจเมตตากรุณาต่อมนุษยชาติ ให้เป็นพลเมืองดี มุ่งทำประโยชน์แก่ชนหมู่มากนั้น มีผลดีจนประเทศอื่น ๆ ได้จัดตั้งขึ้นบ้างในหลายประเทศ สมควรที่สภากาชาดสยามจะได้จัดตั้งขึ้นบ้าง………"ด้วยเหตุนี้กิจการยุวกาชาดไทยจึงได้ถือกำเนิดขึ้น ด้วยวัตถุประสงค์เช่นเดียวกับยุวกาชาดทุกประเทศทั่วโลก คือ “Education for Peace, Good Health, Good Service and International Friendship” จากชื่อ “อนุสภากาชาดสยาม” ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น อนุกาชาด จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2521จึงได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น “ยุวกาชาด” โดยขยายเกณฑ์รับสมาชิกจาก 8 - 18 ปี เป็น 8 - 25 ปี โดยครอบคลุมถึงเยาวชนระดับอุดมศึกษา และเยาวชนนอก โรงเรียน และโดยที่งานยุวกาชาดเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับเยาวชน งานยุวกาชาดจึงขึ้นอยู่กับกรมพลศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และดำเนินงานภายใต้การสนับสนุนของสภากาชาดไทย จนถึงปัจจุบัน
[แก้ไข] หลักการกาชาดสากล
การบริการอาสาสมัคร (Voluntary Service) เป็นหลักการที่สำคัญข้อหนึ่งในหลักการ 7 ข้อของหลักการกาชาดสากลที่ดำเนินการอยู่ทั่วโลก โดยมุ่งเน้นให้อาสาสมัครร่วมใจกันในการให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่เพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสกลุ่มต่าง ๆ ในสังคม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนแต่ อย่างใด โดยหลักการทั้ง 7 ข้อมีดังนี้
มนุษยธรรม กาชาดเกิดขึ้นมาจากความปราถนาที่จะนำความช่วยเหลือโดยมิเลือกปฏิบัติมาสู่ผู้บาดเจ็บในสนามรบ กาชาดเพียรพยายามทั้งในฐานะระหว่างประเทศและในระดับชาติเพื่อป้องกัน และบรรเทาทความทุกข์ทรมานของมนุษย์ไม่ว่าจะพบได้ในที่ใด ความมุ่งประสงค์ของกาชาดได้แก่การคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ และการประกันความเคารพนับถือต่อมนุษยชน กาชาดส่งเสริมความเข้าใจ มิตรภาพ ความร่วมมือระหว่างกัน และสันติภาพยั่งยืนระหว่างประชากรทั้งมวล
ความไม่ลำเอียง กาชาดไม่เลือกปฏิบัติในเรื่องสัญชาติ เชื้อชาติ ความเชื่อถือทางศาสนา ชั้น วรรณะ หรือความคิดเห็นทางการเมือง กาชาดเพียรพยายามอย่างเดียวที่จะบรรเทาความทุกข์ทรมาน โดยให้การปฏิบัติเป็นลำดับแรกต่อกรณีความทุกข์ยากที่เร่งด่วนที่สุด
ความเป็นกลาง เพื่อที่จะได้รับความไว้วางใจสืบต่อไปจากทุกฝ่าย กาชาดไม่อาจเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในการสู้รบ หรือเกี่ยวข้องไม่ว่าในเวลาในการขัดแย้ง ซึ่งมีลักษณะทางการเมือง เชื้อชาติ ศาสนา และลัทธินิยม
ความเป็นอิสระ กาชาดเป็นอิสระ สภากาชาดแม้จะมีส่วนช่วยเหลือในบริการด้านมนุษยธรรมของรัฐบาลของตน และอยู่ในบังคับแห่งกฏหมายของประเทศตน จะต้องธำรงความเป็นอิสระอยู่ต่อไป เพื่อที่จะสามารถปฏิบัติตามหลักการกาชาดได้ทุกเวลา
บริการอาสาสมัคร กาชาดเป็นองค์การอาสาสมัครในการบรรเทาทุกข์ โดยไม่มีความปรารถนาผลประโยชน์ในประการใด ๆ
ความเป็นเอกภาพ ในประเทศพึงมีสภากาชาดได้เพียงแห่งเดียว สภากาชาดต้องเปิดให้กับคนทั่วไป สภากาชาดต้องปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมตลอดทั่วดินแดนของตน
ความเป็นสากล กาชาดเป็นสถาบันสากล ซึ่งสภากาชาดทั้งมวลสังกัดอยู่ในฐานะเท่าเทียมกัน และมีส่วนความรับผิดชอบและหน้าที่เท่าเทียมกันในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
[แก้ไข] คติทรรศน์ของยุวกาชาด
ยุวกาชาด ดี เก่ง รอบรู้ สุขภาพดี
[แก้ไข] วิสัยทัศน์
ยุวกาชาดมุ่งพัฒนาเยาวชนทั้งในระบบ นอกระบบ รวมทั้งเยาวชนกลุ่มพิเศษให้เป็นคนดี มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม มีคุณธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบและรู้จักบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม เพื่อเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ[แก้ไข] ภารกิจ
ปลูกฝังและเผยแพร่ให้เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจในหลักการและอุดมการณ์ของกาชาดในด้านมนุษยธรรม การดูแลสุขภาพอนามัย การบริการ และการส่งเสริมการมีสัมพันธ์ภาพที่ดี มีศรัทธาต่อกาชาด และเข้าร่วมกิจกรรมของกาชาดได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต[แก้ไข] เป้าหมาย
เยาวชนทุกเพศ ทุกวัย ทั้งในและนอกระบบการศึกษา รวมทั้งเยาวชนกลุ่มพิเศษ มีความรู้ ทักษะ เจตคติที่ดี และสนใจเข้าร่วมกิจกรรมกับสภากาชาดไทยด้วยความเสียสละมากขึ้น
[แก้ไข] กลุ่มเป้าหมาย
1. สมาชิกยุวกาชาดในสถานศึกษา สังกัดหมู่ยุวกาชาดอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ แบ่งเป็น 4 ระดับ
- ยุวกาชาดระดับ 1 (ประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 )
- ยุวกาชาดระดับ 2 (ประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 )
- ยุวกาชาดระดับ 3 (มัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 )
-ยุวกาชาดระดับ 4 (มัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 )
2. อาสายุวกาชาด คือเยาวชนอายุระหว่าง 15 – 25 ปี ทั้งที่อยู่ในและนอกระบบโรงเรียนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกาชาด - ยุวกาชาด สามารถสมัครเป็นอาสายุวกาชาด สังกัดชมรมอาสา ยุวกาชาดในสถานศึกษา หรือสังกัดสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทยได้
[แก้ไข] วัตถุประสงค์
ในการเผยแพร่กิจกรรมกาชาดและยุวกาชาดสู่เยาวชน ยึดวัตถุประสงค์ยุวกาชาดสากล 4 ประการ คือ1. Education for Peace : การเผยแพร่การกาชาด หลักการกาชาดและกฎหมายมนุษยธรรม
2. Good Health : การฝึกฝนทักษะการป้องกันชีวิตและสุขภาพ การรักษาสุขภาพอนามัย
3. Good Service : การฝึกทักษะการบำเพ็ญประโยชน์ การบริการชุมชนและบริการอาสาสมัคร
4. International Friendship : การสร้างสัมพันธภาพและความเข้าใจอันดีในกลุ่มเยาวชนและประชาชนในประเทศและต่างประเทศ
[แก้ไข] การอบรมหลักสูตรต่างๆ
- การอบรมปฐมพยาบาล
- การอบรมความรู้เพื่อชีวิต (Fact fot Life)
- การอบรมการเตรียมความพร้อมรับภัยพิบัติ (Disaster Management)
- การบำเพ็ญประโยชน์
- การให้ความรู้เรื่องโลหิต
- การรณรงค์หาผู้บริจาคโลหิต
- การอบรมให้ความรู้เรื่องกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (IHL)
- การอบรมดูแลผู้สูงอายุ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- สำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย
- สภากาชาดไทย
- อักษรดอทคอม
ภาพประกอบจาก โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น